ประวัติ HP : จากโรงรถในแคลิฟอร์เนียสู่โรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย
ประวัติ HP และจุดเริ่มต้น ตำนานจากโรงรถ
ประวัติ HP จุดเริ่มต้นของ HP ตำนานจากโรงรถ บริษัท Hewlett-Packard (HP) ก่อตั้งขึ้นในปี 1939 โดยสองวิศวกรชาวอเมริกัน Bill Hewlett และ Dave Packard เริ่มต้นจากการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายใน โรงรถเล็กๆ ที่เมือง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจุดเริ่มต้นของซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley)
ผลิตภัณฑ์แรกของ HP คือ เครื่องออสซิลเลเตอร์เสียง (audio oscillator) รุ่น HP 200A ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และได้รับออเดอร์จาก Walt Disney สำหรับใช้ในภาพยนตร์ Fantasia
การเติบโตอย่างรวดเร็วและการขยายสู่คอมพิวเตอร์
ในช่วงทศวรรษ 1960s–1980s HP ขยายตัวเข้าสู่ตลาดเครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ทางธุรกิจ โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่าง HP 2116A ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของบริษัท
HP กลายเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพิมพ์ ด้วยการเปิดตัว HP LaserJet (1984) และ HP DeskJet (1988) ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ HP กลายเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องพิมพ์และเทคโนโลยีการพิมพ์
การควบรวมและแยกบริษัท
ปี 2002: HP ควบรวมกับ Compaq Computer Corporation กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก
ปี 2015: HP ประกาศแยกบริษัทออกเป็น 2 หน่วยงาน:
HP Inc. – ดูแลธุรกิจพีซีและเครื่องพิมพ์
Hewlett Packard Enterprise (HPE) – โฟกัสที่โซลูชันองค์กร, เซิร์ฟเวอร์, คลาวด์ และบริการไอที
จุดยืนปัจจุบัน: ผู้นำด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน
HP ในปัจจุบันมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบ เช่น:
เครื่องพิมพ์ระบบ Smart Tank และ Ink Advantage ที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาโน้ตบุ๊กแบบไฮบริด, อุปกรณ์สำหรับการทำงานทางไกล (Work from Anywhere)
เป้าหมายการใช้วัสดุรีไซเคิล และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ภายในปี 2030
HP ตั้งโรงงานในประเทศไทย: ก้าวใหม่ของการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2566 (2023) HP ประกาศแผน ตั้งโรงงานผลิตเครื่องพิมพ์แห่งใหม่ในจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทยโดยความร่วมมือกับ Foxconn (หรือ FII – Foxconn Industrial Internet) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการผลิตระดับโลก
จุดเด่นของโรงงาน HP ในไทย:
พื้นที่รวมกว่า 500,000 ตารางฟุต
เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2567 (2024)
เน้นการผลิตเครื่องพิมพ์เพื่อส่งออกไปยังตลาดเอเชียและทั่วโลก
สนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 และการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
สรุป:...
Google Pixel 10 และ 10 Pro เปิดตัว: AI ยุคใหม่จาก “Tensor G5” และ Gemini
Google เปิดตัว Pixel 10 และ Pixel 10 Pro
Google เปิดตัว Pixel 10 และ Pixel 10 Pro ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยชิป Tensor G5 ที่ผลิตโดย TSMC พร้อมระบบ Gemini ที่ฝังอยู่ในทุกฟีเจอร์ของเครื่อง การออกแบบยังคงเอกลักษณ์ของ Pixel แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยพลังประมวลผลที่เปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานแบบเดิม ๆ ให้เป็นเรื่องอัจฉริยะและไร้รอยต่อ
Tensor G5 ชิปใหม่จาก TSMC เพิ่มประสิทธิภาพ AI บนเครื่อง
Pixel 10 และ Pixel 10 Pro ได้อัปเกรดเป็นชิป Tensor G5 ที่ผลิตโดย TSMC ซึ่งให้ :
CPU เร็วขึ้น 34%
ประมวลผลงาน AI (TPU) ได้เร็วขึ้น 60%
ดีไซน์คงเดิม แต่ฟีเจอร์เติมเต็มด้วย AI
ดีไซน์ภายนอกดูคล้ายกับรุ่นก่อน แต่หน้าจอสว่างกว่า แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และรองรับ Qi2 wireless charging
AI เข้าถึงทุกฟีเจอร์: จาก Magic Cue ถึง Camera Coach
Camera Coach: ช่วยวางองค์ประกอบภาพแบบเรียลไทม์
Magic Cue: วิเคราะห์บริบทและนำเสนอข้อมูลจากแอปต่าง ๆ ก่อนที่คุณจะถาม
ระบบกล้อง: รุ่นธรรมดาเพิ่มเลนส์เทเล แต่ Pro ยังคงคุณภาพเดิม
Pixel 10 รุ่นธรรมดา: ได้กล้อง 3 ตัว (Wide 48MP, Ultrawide 13MP, Telephoto 10.8MP) แม้จะใช้เซ็นเซอร์ที่เล็กลงจาก Pixel 9
Pixel 10 Pro / Pro XL: ยังคงใช้เซ็นเซอร์กล้องระดับโปร พร้อมรองรับวิดีโอ 8K และ Dual 100× Pro Res Zoom ด้วย AI
AI ช่วย Zoom ขั้นสุด: Pro Res Zoom ลดเบลอ 100× ไม่แตะคน
Pro Res Zoom ใช้ Latent Diffusion สร้างภาพชัดแม้ซูมไกลถึง 100× — ไม่แตะใบหน้าเพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมติดแท็กบ่งชี้ AI (C2PA)
AI แปลภาษา เหมือนมีล่ามในเครื่อง
รองรับการแปลเสียงเรียลไทม์ โดยเก็บสำเนาเสียงผู้พูด และมีฟีเจอร์...
iPhone 17 หลุดข้อมูล: บางที่สุดในประวัติศาสตร์! และสรุปทุกความคาดหวังจาก Apple Event
กำหนดการเปิดตัว iPhone 17 – วันไหนคาดว่าจะเกิดขึ้น?
Apple อาจจัดงานเปิดตัวในวันที่ 9 กันยายน 2025 ตามแนวทางการจัดงานในปีก่อนหน้ารายงานอื่นเสริมว่า การสั่งจองล่วงหน้าจะเริ่มวันที่ 12 กันยายน และเริ่มวางจำหน่ายในร้านวันที่ 19 กันยายน
CR : AI By admin_yo
iPhone 17 – รุ่นมาตรฐาน: จอใหญ่ และกล้องหน้า 24MP
ขนาดหน้าจอ เพิ่มเป็น 6.3 นิ้ว พร้อมรองรับ 120 Hz — เพิ่มขึ้นจาก 60 Hz ใน iPhone 16
กล้องหน้า 24MP และอาจมี สีใหม่ เช่น ม่วง หรือ เขียว
iPhone 17 Pro และ Pro Max – โครงสร้างเบาขึ้น และกล้องใหม่
กล้องหลังจะจัดในรูปแบบ bar แนวยาว ชิดขอบ พร้อมแฟลช ไมโครโฟนทางด้านขวา และโลโก้ Apple กึ่งกลางตัวเครื่อง
iPhone 17 Pro อาจเปลี่ยนวัสดุกรอบจากไทเทเนียมเป็น อลูมิเนียม เพื่อความเบาและลดต้นทุน
iPhone 17 Pro Max ตัวเครื่องอาจหนาขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความจุของแบตเตอรี่
iPhone 17 Air – บางที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone
คาดว่ามีน้ำหนักเพียง 145 กรัม และหนาเพียง 5.5‑6 มม., แบตประมาณ 2,900 mAh
หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดสูง พร้อม ProMotion 120 Hz
กล้องหลังเดี่ยว 48MP, กล้องหน้า 24MP, ชิพ A19, รองรับ 5G และ eSIM เท่านั้น
CR : AI By admin_yo
ผลกระทบกับตลาดและผู้บริโภค – ควรรอหรือซื้อเลย?
บทความจาก Tom’s Guide แนะนำว่า ตอนนี้ไม่ควรซื้อ iPhone ใหม่ เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ iPhone 17 กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
รวมข้อมูลสเปก iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่น
รุ่นหน้าจอกล้องหน้ากล้องหลังวัสดุและดีไซน์จุดสำคัญเพิ่มเติมiPhone 176.3" 120Hz24MPกล้องหลังแบบปกติสีใหม่ (ม่วง, เขียว)รุ่นเริ่มต้น ถูกอัปเกรดจาก iPhone 16iPhone...
Pixel 10 หลุดสเปก เพิ่มเลนส์ซูมแต่ลดคุณภาพกล้องหลัก?
Pixel 10 หลุดสเปก รุ่นมาตรฐานอาจเปลี่ยนกล้องหลัก – เพิ่มเลนส์ซูม
รายงานล่าสุดจากวงในเปิดเผยว่า Google Pixel 10 หลุดสเปก รุ่นมาตรฐาน อาจมีการปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์กล้องครั้งใหญ่ โดย กล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์อาจถูกลดสเปกลง ใช้เซ็นเซอร์เดียวกับที่พบในรุ่นกลางอย่าง Pixel 9A ซึ่งถือว่าด้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Pixel 9
แต่ในอีกด้านหนึ่ง Pixel 10 จะมีการ เพิ่มเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในรุ่นธรรมดาของซีรีส์ Pixel ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
CR : สร้างโดย AI (DALL·E จาก OpenAI) เพื่อใช้ใน
Pixel 10 Pro จะยังใช้กล้องแบบเดิม – เน้นซอฟต์แวร์และชิป Tensor G5
สำหรับ Pixel 10 Pro แหล่งข่าวระบุว่า ยังคงใช้ฮาร์ดแวร์กล้องแบบเดียวกับ Pixel 9 Pro แต่คาดว่าจะมีการปรับปรุงคุณภาพภาพถ่ายผ่านซอฟต์แวร์ และประสิทธิภาพของ ชิป Tensor G5 รุ่นใหม่
การตัดสินใจไม่อัปเกรดกล้องอาจสะท้อนถึงแนวทางของ Google ที่เชื่อมั่นในระบบประมวลผลภาพ (computational photography) มากกว่าการเพิ่มสเปกฮาร์ดแวร์
Pixel 10 Pro Fold อาจใช้กล้องหลักรุ่นกลาง
ยังมีข่าวลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pixel 10 Pro Fold ที่ระบุว่า Google อาจเลือกใช้ กล้องหลักแบบเดียวกับ Pixel 9A ในรุ่นจอพับของตน ซึ่งถือเป็นการลดต้นทุนที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของภาพถ่ายในรุ่นพับได้
วันเปิดตัว Pixel 9A และกำหนดการของ Pixel 10
Google มีกำหนดการเปิดตัว Pixel 9A ในวันที่ 10 เมษายน 2025 ซึ่งเป็นรุ่นระดับกลางในซีรีส์ และคาดว่า Pixel 10 series จะเปิดตัว ในเดือนสิงหาคม 2025 เช่นเดียวกับรอบปีที่ผ่านมา
บทสรุป: การเปลี่ยนแปลงที่เสี่ยงแต่มีเป้าหมาย
การเลือกเพิ่มเลนส์ซูมใน Pixel 10 แต่ลดคุณภาพกล้องหลักอาจดูขัดแย้งในตอนแรก แต่ Google อาจต้องการสร้างจุดต่างให้กับแต่ละรุ่นในซีรีส์ โดยอาศัยซอฟต์แวร์เข้ามาชดเชยจุดด้อยด้านฮาร์ดแวร์
ที่มา
The Verge – Google Pixel 10 leak suggests camera downgrade for main lens
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ...
Intel จับมือ TSMC เตรียมตั้งบริษัท
Intel จับมือ TSMC เตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตชิปในสหรัฐฯ
Intel จับมือ TSMC สหรัฐฯ หนุนตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตชิป รายงานล่าสุดเปิดเผยว่า Intel และ TSMC สองยักษ์ใหญ่ในวงการเซมิคอนดักเตอร์ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อจัดตั้ง บริษัทร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อบริหารโรงงานผลิตชิปของ Intel ในสหรัฐอเมริกา โดย TSMC จะถือหุ้นราว 20% ของบริษัทร่วมทุนนี้
เครดิตภาพประกอบ: สร้างโดย AI (DALL·E จาก OpenAI) เพื่อใช้ในบทความนี้
ไม่ใช่แค่เงินลงทุน – แต่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย
แม้ TSMC จะไม่ได้ลงทุนเงินสดโดยตรง แต่บริษัทไต้หวันจะส่งต่อเทคโนโลยีการผลิตชิปบางส่วน พร้อมจัดการฝึกอบรมบุคลากรของ Intel เพื่อให้สามารถผลิตชิประดับสูงได้ตามมาตรฐานของ TSMC
เป้าหมายใหญ่: ผลักดัน Intel กลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง
การร่วมมือครั้งนี้มีเบื้องหลังคือความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ โดยเฉพาะ Intel ที่ขาดทุนสุทธิถึง 18.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 การผลักดันร่วมทุนกับ TSMC จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการยกระดับศักยภาพของ Intel
CEO ใหม่ของ Intel คือจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง
การเคลื่อนไหวนี้ยังเกิดขึ้นหลังจาก Lip-Bu Tan อดีตผู้บริหาร Cadence ได้เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Intel เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีแผนปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ รวมถึงการแยกธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลักออกจาก Intel
ทั้งสองบริษัทยังไม่แถลงอย่างเป็นทางการ
แม้จะมีรายงานออกมาจากหลายสื่อแล้ว แต่ Intel และ TSMC ยัง ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในตอนนี้ และยังไม่มีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับบริษัทร่วมทุนดังกล่าว
ที่มา
TechCrunch - Intel and TSMC are reportedly launching a joint chipmaking venture
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
เตรียมเปิดตัว TikTok Shop ในฝั่งยุโรป
TikTok เตรียมเปิดตัว TikTok Shop ในฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี
TikTok เตรียมเปิดตัว TikTok Shop โดยกำลังขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซในยุโรป ใน ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสู่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์
การขยายตัวของ TikTok Shop
หลังจาก TikTok ประสบความสำเร็จในตลาดอีคอมเมิร์ซของสหราชอาณาจักรและบางประเทศในเอเชีย บริษัทจึงเดินหน้าขยาย TikTok Shop สู่ประเทศใหม่ ๆ ในยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับแบรนด์และผู้ค้ารายย่อยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโต
ประโยชน์สำหรับผู้ใช้และผู้ขาย
ผู้ใช้ TikTok ในฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี จะสามารถซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรงจากครีเอเตอร์และแบรนด์ที่พวกเขาติดตาม
ผู้ขายและครีเอเตอร์ จะได้รับโอกาสในการโปรโมตสินค้าและสร้างรายได้ผ่านระบบไลฟ์สตรีมและวิดีโอสั้น
CR: Total IT Solution - สร้างด้วย AI โดย DALL·E
กลยุทธ์การแข่งขันของ TikTok Shop
เพื่อให้ TikTok Shop สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ได้ TikTok ได้ใช้กลยุทธ์ที่เน้นการสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่าง เช่น
การใช้วิดีโอคอนเทนต์ และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค
การพัฒนาระบบ AI เพื่อแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้ใช้
การเพิ่มช่องทางการชำระเงินและการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น
ศักยภาพของ TikTok Shop ในยุโรป
TikTok Shop มีโอกาสเติบโตอย่างมากในตลาดยุโรป เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น การเปิดตัวใน ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี จะช่วยให้ TikTok สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ
ความท้าทายในการแข่งขัน
การขยายตัวของ TikTok Shop ทำให้แพลตฟอร์มกลายเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาดอีคอมเมิร์ซของยุโรป ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Amazon, eBay และ Shopify TikTok จะต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น
การสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค
การปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบด้านอีคอมเมิร์ซของยุโรป
การแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งกว่า
สรุป
การเปิดตัว TikTok Shop ในฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ถือเป็นก้าวสำคัญของ TikTok ในการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ที่เน้น คอนเทนต์และโซเชียลคอมเมิร์ซ ทำให้ TikTok มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคในยุโรป
ที่มา
TechCrunch
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Instagram เพิ่มปรับความเร็ววิดีโอเหมือน TikTok
Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ปรับความเร็ววิดีโอได้เหมือน TikTok
Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ และยังคงพัฒนาแพลตฟอร์มของตนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว ฟีเจอร์ปรับความเร็ววิดีโอ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วของวิดีโอได้ คล้ายกับฟีเจอร์ยอดนิยมบน TikTok นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Instagram ในการเสริมประสบการณ์การสร้างคอนเทนต์ให้ดียิ่งขึ้น
รายละเอียดของฟีเจอร์ปรับความเร็ววิดีโอ
สามารถปรับความเร็ววิดีโอได้ ทั้งใน Reels และ Stories
ตัวเลือกความเร็วที่หลากหลาย ตั้งแต่ 0.5x (ช้าลง) ไปจนถึง 3x (เร็วขึ้น)
รองรับทั้งวิดีโอที่บันทึกใหม่และวิดีโอที่อัปโหลดจากแกลเลอรี
ใช้งานง่าย เพียงเลือกความเร็วที่ต้องการก่อนหรือหลังบันทึกวิดีโอ
เหตุผลที่ Instagram เพิ่มฟีเจอร์นี้
ฟีเจอร์นี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามของ Instagram ในการ แข่งขันกับ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงในการสร้างวิดีโอสั้น ปัจจุบัน TikTok มีฟีเจอร์ปรับความเร็ววิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ Instagram ต้องเพิ่มฟีเจอร์นี้เพื่อดึงดูดผู้ใช้และเพิ่มศักยภาพของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม
ประโยชน์ของฟีเจอร์ใหม่
เพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้ใช้ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบการตัดต่อวิดีโอแนวสร้างสรรค์
ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างเนื้อหาได้หลากหลายขึ้น เช่น วิดีโอสโลว์โมชั่น หรือวิดีโอเร่งความเร็วเพื่อความบันเทิง
เพิ่มความสะดวกในการตัดต่อ ทำให้ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันภายนอกในการปรับความเร็ว
CR : Instagram
การตอบรับจากผู้ใช้
ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์นี้ มีผู้ใช้ Instagram จำนวนมากเริ่มทดลองใช้และให้ผลตอบรับในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่คอนเทนต์ ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้พวกเขาสามารถผลิตเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณภาพสูงขึ้นได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ Instagram สามารถ เพิ่มเวลาการใช้งานของผู้ใช้ (User Engagement) เนื่องจากผู้ใช้มีตัวเลือกในการสร้างและรับชมคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายและสนุกสนานมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถรักษาฐานผู้ใช้และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่
ทิศทางของ Instagram ต่อไป
นอกจากฟีเจอร์นี้แล้ว Instagram ยังมีแผนจะเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถ สร้างและแก้ไขวิดีโอได้ง่ายขึ้น รวมถึงปรับปรุงเครื่องมือการตัดต่อและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่าง แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น
สรุป
การเพิ่มฟีเจอร์ปรับความเร็ววิดีโอของ Instagram ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถแข่งขันกับ TikTok ได้ดีขึ้น โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ปรับแต่งวิดีโอได้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม คาดว่าฟีเจอร์นี้จะได้รับความนิยมในกลุ่มครีเอเตอร์และผู้ใช้ที่ต้องการสร้างวิดีโอที่มีความสร้างสรรค์และน่าสนใจ
ที่มา
TechCrunch
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Laser Printer vs Inkjet Printer เลือกแบบไหนดี ?
Laser Printer vs Inkjet Printer เลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
Laser Printer vs Inkjet Printer เมื่อพูดถึงเครื่อง Print หลายคนมักมีคำถามว่า Laser Printer และ Inkjet Printer แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของเครื่องพิมพ์ทั้งสองประเภทเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. Inkjet Printer
เป็นเครื่อง Print ที่ใช้หมึกเหลวในการพ่นลงบนกระดาษ ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสดใสและคมชัด เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่มีภาพประกอบหรือภาพถ่าย
ข้อดีของ Inkjet Printer
ราคาถูกกว่า Laser Printer ในระดับเริ่มต้น
สามารถพิมพ์ภาพสีและภาพถ่ายได้คุณภาพสูง
ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศขนาดเล็ก
ใช้พิมพ์บนวัสดุหลากหลาย เช่น กระดาษธรรมดา กระดาษมัน หรือสติกเกอร์
ข้อเสียของ Inkjet Printer
หมึกมีต้นทุนสูง และต้องเปลี่ยนบ่อยกว่าผงหมึกของเลเซอร์
ความเร็วในการพิมพ์ต่ำกว่า Laser Printer
หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน หัวพิมพ์อาจอุดตัน ทำให้ต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนตลับหมึกใหม่
CR : HP
2. Laser Printer
Laser Printer เป็นเครื่อง Print ที่ใช้เทคโนโลยีผงหมึก (Toner) และลำแสงเลเซอร์ในการพิมพ์ ซึ่งให้ความคมชัดสูงและพิมพ์ได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่เป็นข้อความเป็นหลัก
ข้อดีของ Laser Printer
พิมพ์ได้เร็วกว่า เหมาะกับงานที่ต้องการปริมาณมาก
ต้นทุนต่อแผ่นต่ำกว่าหากพิมพ์จำนวนมาก
คุณภาพของตัวอักษรคมชัด เหมาะสำหรับเอกสารทางธุรกิจ
ผงหมึกมีอายุการใช้งานนานกว่า ไม่แห้งเหมือนหมึกอิงค์เจ็ต
ข้อเสียของ Laser Printer
ราคาสูงกว่า Inkjet Printer ในระดับเริ่มต้น
ขนาดเครื่องใหญ่กว่าทำให้ใช้พื้นที่มากขึ้น
รุ่นที่พิมพ์สีได้มีราคาสูงกว่ารุ่นขาว-ดำมาก
ไม่เหมาะสำหรับพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง
CR : HP
3. ควรเลือกเครื่อง Print แบบไหน?
การเลือกเครื่อง Print ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของคุณ:
หากต้องการพิมพ์เอกสารจำนวนมากและต้องการความคมชัดของตัวอักษร → เลือก Laser Printer
หากต้องการพิมพ์ภาพถ่ายหรือเอกสารสีที่มีรายละเอียดเยอะ → เลือก Inkjet Printer
หากมีงบประมาณจำกัดและใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศเล็กๆ → Laser Printer อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
หากต้องการประหยัดต้นทุนระยะยาว → Laser Printer เหมาะกว่าในกรณีที่พิมพ์บ่อยและเป็นเอกสารขาว-ดำ
สรุป
Laser Printer และ Inkjet Printer ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานควรพิจารณาจากลักษณะของงานพิมพ์ที่ต้องการ หากต้องการพิมพ์สีคุณภาพสูงควรเลือก Inkjet Printer แต่หากต้องการพิมพ์งานเอกสารที่เน้นข้อความเป็นหลักและพิมพ์จำนวนมาก Laser Printer จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่อง Print ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ง่ายขึ้น!
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Apple อัปเกรด AirPods Max
Apple อัปเกรด AirPods Max รองรับ Lossless Audio และ Low Latency ผ่าน USB-C
Apple ประกาศ อัปเกรด AirPods Max โดยเพิ่มการรองรับ Lossless Audio และ Low Latency ผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่ช่วยให้คุณภาพเสียงดีขึ้น และลดความหน่วงของเสียง โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับสูงสุด
รองรับ Lossless Audio คุณภาพสูง
การอัปเกรดครั้งนี้ทำให้ AirPods Max รองรับการเล่นเสียงแบบ Lossless Audio ผ่านการเชื่อมต่อ USB-C ซึ่งช่วยให้เสียงที่ได้มีความคมชัดและรายละเอียดสูงขึ้น ผู้ใช้สามารถสัมผัสคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับมากกว่าการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
CR : Apple
CR : Apple
Low Latency – ลดความหน่วงของเสียง
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ Low Latency Mode ที่ช่วยลดความหน่วงของเสียงเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple ทำให้ AirPods Max เหมาะสำหรับการเล่นเกม การดูภาพยนตร์ หรือการทำงานด้านเสียงที่ต้องการความแม่นยำสูง
USB-C แทนที่ Lightning
Apple ได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลายขึ้น และเป็นแนวทางเดียวกับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ของ Apple เช่น iPhone 15 และ iPad รุ่นล่าสุด
สรุป
การอัปเกรดครั้งนี้ทำให้ AirPods Max กลายเป็นหูฟังไร้สายที่รองรับเสียงคุณภาพสูงมากขึ้น ทั้ง Lossless Audio และ Low Latency ผ่าน USB-C เป็นการยกระดับประสบการณ์เสียงให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงและการใช้งานที่ตอบสนองได้รวดเร็ว
ที่มา
The Verge
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
GM จับมือ Nvidia
CR : Screenshot/Nvidia
GM จับมือ Nvidia นำ AI สู่ยานยนต์อัตโนมัติและโรงงานผลิต
GM จับมือ Nvidia : General Motors (GM) ได้ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และกระบวนการผลิตในโรงงาน ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ GM สามารถพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติได้เร็วขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตยานยนต์
นำ AI มาใช้ในโรงงานผลิต
GM จะนำแพลตฟอร์ม Omniverse ของ Nvidia มาใช้ในโรงงานเพื่อฝึกฝนโมเดล AI และปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM สามารถจำลองสายการผลิตเสมือนจริง ลดเวลาหยุดทำงาน และเพิ่มผลผลิตของโรงงาน
พัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ
ความร่วมมือครั้งนี้ยังรวมถึงการใช้ชิป Nvidia DRIVE AGX สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ในยานยนต์รุ่นต่อไปของ GM เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติให้มีความแม่นยำมากขึ้น
ขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม
นอกจาก GM แล้ว ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ เช่น Toyota, Hyundai และ Mercedes-Benz ก็ได้จับมือกับ Nvidia ในการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ AI ในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์
สรุป
การร่วมมือระหว่าง GM และ Nvidia ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งแต่การปรับปรุงกระบวนการผลิตไปจนถึงการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค
ที่มา
The VergeReuters
**สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่**
Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ