MacBook Air 2025
0

เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ปี 2025 ชิป M4

Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ปี 2025 ขุมพลังชิป M4 มาทั้งขนาด 13 และ 15 นิ้ว Apple ได้เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป M4 ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น มาพร้อมกับตัวเลือกสองขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันของผู้ใช้ MacBook Air รุ่นใหม่ยังคงรักษาจุดเด่นด้านความบางเบา และพกพาสะดวก พร้อมอัปเกรดประสิทธิภาพให้รองรับการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้น เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และมืออาชีพที่ต้องการแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า สเปกและคุณสมบัติที่สำคัญ ชิปประมวลผล M4 ใช้สถาปัตยกรรม 3nm ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่า M3 รองรับ Neural Engine ที่พัฒนาขึ้นสำหรับงาน AI และ Machine Learning ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิม 25-30% เมื่อเทียบกับ M3 CR : Apple ดีไซน์และหน้าจอ หน้าจอ Liquid Retina Display ความละเอียดสูง รองรับ True Tone ขอบหน้าจอบางลง ทำให้พื้นที่การแสดงผลเพิ่มขึ้น ความสว่างสูงสุด 500 nits รองรับสีสันที่แม่นยำสำหรับงานกราฟิก หน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ตัวเลือก RAM เริ่มต้นที่ 8GB และสามารถอัปเกรดได้สูงสุดถึง 24GB พื้นที่เก็บข้อมูล SSD ขนาด 256GB สูงสุดที่ 2TB CR : Apple แบตเตอรี่และการใช้งาน ใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับ MagSafe 3 สำหรับการชาร์จที่รวดเร็ว สามารถใช้ USB-C Thunderbolt 4 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้ ระบบเสียงและกล้อง มาพร้อมลำโพง 4 ตัว รองรับ Spatial Audio และ Dolby Atmos ไมโครโฟนคุณภาพสูงตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น กล้องหน้า 1080p FaceTime HD ให้ภาพที่คมชัดมากขึ้น สีสันและดีไซน์ตัวเครื่อง มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Midnight, Starlight, Silver และ Space Gray ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 11.5 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 1.24 กก. สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย MacBook Air รุ่นใหม่จะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ Apple ประเทศไทย และร้านค้าพันธมิตร โดยมีราคาดังนี้: MacBook Air 13 นิ้ว (RAM 8GB / SSD 256GB)...
Continue reading
Xiaomi 15 Ultra
0

เปิดตัว Xiaomi 15 Ultra

CRXiaomi Xiaomi เปิดตัว Xiaomi 15 Ultra ในประเทศไทย Xiaomi เปิดตัว สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Xiaomi 15 Ultra ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ สเปกและคุณสมบัติที่สำคัญ หน้าจอ: Xiaomi 15 Ultra มาพร้อมหน้าจอที่มีความสว่างสูงถึง 3,200 nits และใช้เทคโนโลยีการอ่านลายนิ้วมือใต้จอแบบ ultrasonic เพื่อการปลดล็อกที่รวดเร็วและแม่นยำ ชิปประมวลผล: ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่มอบประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ระบบปฏิบัติการ: มาพร้อมกับ Xiaomi HyperOS 2 ที่ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Gemini เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น กล้อง: ร่วมมือกับ Leica ในการพัฒนากล้อง โดยใช้เลนส์ Leica Summilux เพื่อคุณภาพการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย Xiaomi 15 Ultra รุ่น 16GB RAM + 512GB ROM: ราคา 42,990 บาท Xiaomi 15 Ultra รุ่น 16GB RAM + 1TB ROM: ราคา 46,990 บาท ทั้งนี้ Xiaomi 15 Ultra มีให้เลือกในสี Black, White และ Silver Chrome โดยสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2568 และจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 12 มีนาคม 2568 สรุป Xiaomi 15 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่ทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมและการถ่ายภาพคุณภาพสูง **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
เปิดตัว iPad Air
0

เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ปี 2025 ชิป M3

เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ปี 2025 : ด้วยชิป M3 พร้อม Magic Keyboard รุ่นใหม่ เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการออกแบบ ด้วยชิป M3 และอุปกรณ์เสริมที่ปรับปรุงใหม่ ผู้ใช้สามารถคาดหวังประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นจาก iPad Air รุ่นนี้ สเปกและคุณสมบัติที่สำคัญ ชิปประมวลผล M3: iPad Air รุ่นใหม่นี้ใช้ชิป M3 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ช่วยให้การทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขนาดหน้าจอ: มีให้เลือกสองขนาดคือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย ความจุและสีสัน: เริ่มต้นที่ความจุ 128GB และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกตามสไตล์ของตนเอง CR : Apple อุปกรณ์เสริมใหม่ Magic Keyboard รุ่นใหม่: มาพร้อมกับแถวฟังก์ชัน 14 ปุ่มและแทร็คแพดที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้การพิมพ์และการนำทางเป็นไปอย่างราบรื่น ราคาและการวางจำหน่าย iPad Air 11 นิ้ว: ราคาเริ่มต้นที่ $599 iPad Air 13 นิ้ว: ราคาเริ่มต้นที่ $799 Magic Keyboard: ราคา $269 สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ $319 สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ทั้งนี้ iPad Air รุ่นใหม่และอุปกรณ์เสริมสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม และจะเริ่มจัดส่งในวันที่ 12 มีนาคม แหล่งที่มา The Verge Lifewire The Verge - Preorder **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
Apple เตรียมเปิดตัว Air
0

Apple เตรียมเปิดตัว Air ซีรีส์

Tim Cook CEO ของ Apple เตรียมเปิดตัว Air ซีรีส์ ซึ่ง Tim Cook ได้โพสต์ข้อความที่น่าสนใจบน X (เดิมคือ Twitter) โดยกล่าวว่า "This week. There's something in the air." ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาว่า Apple อาจจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในซีรีส์ 'Air' เช่น MacBook Air หรือ iPad Air2. Apple เตรียมเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ในซีรีส์ Air กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – Tim Cook CEO ของ Apple ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ทั่วโลกด้วยการโพสต์ข้อความที่น่าสนใจบน X (เดิมคือ Twitter) โดยกล่าวว่า "This week. There's something in the air." ข้อความนี้ทำให้เกิดการคาดเดาว่า Apple อาจจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในซีรีส์ 'Air' เช่น MacBook Air หรือ iPad Air ในสัปดาห์นี้ Apple มีประวัติการใช้ชื่อ 'Air' สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพสูง เริ่มต้นจาก MacBook Air ในปี 2008 และขยายไปยัง iPad Air และ AirPods ในปีต่อมา การใช้ชื่อ 'Air' นี้ทำให้แฟนๆ คาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีการอัปเกรดที่สำคัญ Screenshot: X.com https://twitter.com/tim_cook/status/1896589954517701057 คุณสมบัติที่คาดหวังของ MacBook Air ใหม่ ชิปเซ็ต M4: ซีพียู 10 คอร์ และจีพียู 10 คอร์ สำหรับการประมวลผลที่เร็วขึ้นและกราฟิกที่ดีขึ้น ความจุ RAM สูงขึ้น: รองรับ RAM สูงสุด 32GB จากเดิม 24GB อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น: ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้นสำหรับการใช้งานที่ยาวนานขึ้น กล้อง Center Stage 12MP: สำหรับการประชุมวิดีโอที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดเดาว่า iPad Air ใหม่อาจจะมีการอัปเกรดชิปเซ็ตที่ทรงพลังขึ้น เทคโนโลยีจอแสดงผลที่ดีขึ้น และคุณสมบัติกล้องที่ดีขึ้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ในซีรีส์ 'Air' นี้จะเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่ตลาด และทำให้แฟนๆ ทั่วโลกตื่นเต้นกับการเปิดตัวครั้งนี้ **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ...
Continue reading
Mario
0

เกม Super Mario กลายเป็นเครื่องมือทดสอบ AI

เกม Super Mario Bros. กลายเป็นเครื่องมือทดสอบ AI: วัดประสิทธิภาพการเรียนรู้และการตัดสินใจ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิจัยและนักพัฒนาต่างหาวิธีใหม่ ๆ ในการวัดประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหนึ่งในแนวทางที่กำลังได้รับความสนใจคือการใช้ เกม Super Mario Bros. เป็นแพลตฟอร์มทดสอบ AI เนื่องจากเกมนี้ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็ว ความสามารถในการวางแผน และการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์ศักยภาพของ AI ได้อย่างแม่นยำ ทำไม Super Mario Bros. ถึงเหมาะกับการทดสอบ AI? การตัดสินใจแบบเรียลไทม์ เกมต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและการตัดสินใจอย่างแม่นยำ AI ต้องสามารถคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคและศัตรู การวางแผนและการคาดการณ์ AI ต้องสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของศัตรู เช่น Goombas และ Koopa Troopas การคำนวณการกระโดดข้ามเหวหรือการหลบกับดักต้องมีความแม่นยำ การเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูก AI สามารถใช้เทคนิค Reinforcement Learning เพื่อเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับกลยุทธ์ให้ดีขึ้น กรณีศึกษา: MarI/O โดย SethBling ในปี 2015 นักพัฒนาชื่อ SethBling ได้สร้าง AI ที่ชื่อว่า MarI/O โดยใช้เทคนิค Neuroevolution of Augmenting Topologies (NEAT) เพื่อให้ AI สามารถเล่น Super Mario World ได้ด้วยตนเอง AI ตัวนี้เรียนรู้จากการลองผิดลองถูกและพัฒนาความสามารถในการเล่นจนสามารถผ่านด่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า AI สามารถพัฒนาแนวทางการเล่นเกมโดยไม่ต้องมีการเขียนโค้ดแบบกำหนดตายตัว Photo by betacontinua / CC BY 2.0 อนาคตของ AI และการใช้เกมในการทดสอบ การใช้เกมอย่าง Super Mario Bros. เป็นแพลตฟอร์มทดสอบ AI ไม่เพียงแต่ช่วยประเมินศักยภาพของ AI ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม แต่ยังช่วยให้พัฒนาระบบที่สามารถปรับตัวและเรียนรู้จากสถานการณ์จริงได้ดีขึ้น แนวคิดนี้สามารถนำไปปรับใช้กับระบบ AI ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น หุ่นยนต์อัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนาเกมในอนาคต ด้วยศักยภาพที่ AI แสดงให้เห็นจากการทดสอบผ่าน Super Mario Bros. เราอาจได้เห็นความก้าวหน้าของ AI ในด้านอื่น ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราได้ในอนาคตอันใกล้นี้ **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
0

Skype เตรียมปิดบริการ ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

Microsoft ประกาศปิดบริการ Skype วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ Microsoft ประกาศปิดบริการ Skype ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นข่าวที่สำคัญสำหรับผู้ใช้หลายล้านคนที่ยังคงใช้งานบริการนี้ในการสื่อสาร ทั้งในการโทรศัพท์ ส่งข้อความ และการประชุมออนไลน์ บริการ Skype ที่เคยได้รับความนิยมมากในอดีต กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ต่างออกไป การประกาศครั้งนี้จึงสร้างความตกใจให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก CR : Logo Microsoft Made Microsoft ยุติการให้บริการ Skype: สิ่งที่ผู้ใช้ต้องรู้ การยุติการให้บริการ Skype จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทั้งในด้านการโทรออนไลน์, การประชุมทางวิดีโอ, และการส่งข้อความที่เคยมีความสะดวกสบายในอดีต แม้ว่า Skype จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ Microsoft ได้พัฒนาขึ้นและใช้งานมานาน แต่ในช่วงหลัง Microsoft ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา Microsoft Teams ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ครบครันและเหมาะสมกับการทำงานในองค์กรมากกว่า สาเหตุของการยุติ Skype การยุติบริการ Skype เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ในการมุ่งเน้นให้ Microsoft Teams กลายเป็นเครื่องมือหลักสำหรับการสื่อสารและการทำงานร่วมกันในองค์กรในยุคดิจิทัล และหลังจากที่การทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเทรนด์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Microsoft Teams ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการทำงานร่วมกันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์, การแชร์ไฟล์, หรือการติดต่อสื่อสารในแบบต่างๆ ที่เหมาะกับการทำงานขององค์กร โดยที่ Skype ซึ่งเดิมทีถูกใช้ในหลายบริบททั้งส่วนบุคคลและองค์กร ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้อีกต่อไป ผู้ใช้ควรทำอย่างไรหลังจากวันที่ 5 พฤษภาคม สำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน Microsoft แนะนำให้เริ่มเตรียมตัวและย้ายไปใช้บริการ Microsoft Teams หรือเลือกใช้แอปพลิเคชันอื่นที่มีฟีเจอร์ครบครันและเหมาะสมกับการสื่อสารและการทำงานในยุคใหม่ Microsoft Teams จะเป็นตัวเลือกหลักที่ผู้ใช้งานสามารถนำมาใช้แทน Skype ได้ โดยที่ยังคงรักษาความสามารถในการโทร, ส่งข้อความ, และการประชุมออนไลน์ไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการทำงานในองค์กรอย่างไร การยุติ Skype จะทำให้ Microsoft Teams กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงานในองค์กร โดย Teams รองรับทั้งการทำงานแบบทีม การประชุมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น การแชร์หน้าจอ การประชุมพร้อมกันหลายคน และฟีเจอร์การบันทึกการประชุมเพื่อใช้อ้างอิงในภายหลัง นอกจากนี้ Microsoft Teams ยังสามารถเชื่อมโยงกับเครื่องมืออื่นๆ ของ Microsoft เช่น Word, Excel และ PowerPoint ทำให้การทำงานร่วมกันในองค์กรเป็นเรื่องง่ายขึ้น สรุป วันที่ 5 พฤษภาคมนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ Skype ให้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วไป ผู้ใช้ที่ยังคงใช้ Skype ในการสื่อสาร ควรเตรียมตัวสำหรับการย้ายไปใช้บริการอื่น โดยเฉพาะ Microsoft Teams ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ Microsoft พัฒนาเพื่อรองรับการทำงานในองค์กรและการสื่อสารในยุคดิจิทัล นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงนี้ยังคาดว่าจะส่งผลต่อการใช้เทคโนโลยีในองค์กรในอนาคตอย่างมาก หากคุณเป็นผู้ใช้ Skype หรือมีการใช้งานในองค์กรของคุณ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้และวางแผนการเปลี่ยนแปลงให้พร้อมก่อนวันที่ 5 พฤษภาคม เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในการทำงาน **สำหรับท่านที่สนใจ...
Continue reading
2024 ประเทศไทย สแกน QR Code
0

ประเทศไทยสแกน QR Code ติดอันดับ 3 ของโลก

ประเทศไทย สแกน QR Code ติดอันดับ 3 ของโลก ในปี 2024 ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีการ สแกน QR Code มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2024 โดยมีผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 61.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของระบบชำระเงินดิจิทัลภายในประเทศ CR : iMin Technology from Pexels ประเทศที่มีการใช้งาน QR Code สูงสุดในปี 2024 อันดับ 1: จีน – ผู้ใช้งานต่อเดือน 67.4% อันดับ 2: มาเลเซีย – ผู้ใช้งานต่อเดือน 66.1% อันดับ 3: ไทย – ผู้ใช้งานต่อเดือน 61.5% อันดับ 4: อาร์เจนตินา – ผู้ใช้งานต่อเดือน 61% อันดับ 5: บราซิล – ผู้ใช้งานต่อเดือน 60.8% การเติบโตของการใช้ QR Code ในประเทศไทย ประเทศไทยถือเป็นผู้นำด้านการใช้ QR Payment ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะผ่านระบบ "พร้อมเพย์" (PromptPay) ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ในปี 2023 มีจำนวนผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 77.2 ล้านราย และมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 129,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งเสริมการใช้งาน QR Code ในประเทศไทย ความสะดวกสบาย: การสแกน QR Code ช่วยให้การชำระเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย การสนับสนุนจากภาครัฐ: โครงการพร้อมเพย์เป็นหนึ่งในนโยบายที่ส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัล การยอมรับของผู้ประกอบการ: ร้านค้าและบริการต่าง ๆ หันมาใช้ QR Code เพื่อรองรับการชำระเงินของลูกค้า สรุป การที่ประเทศไทยติดอันดับ 3 ของโลกในการสแกน QR Code มากที่สุดในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในระยะยาว แหล่งที่มา PPTV HD 36 Techsauce **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
Samsung เตรียมเปิดตัว
0

Samsung เปิดตัว Galaxy Z Fold 7: สมาร์ทโฟนจอพับบางเฉียบเพียง 4.5 มม.

Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่บางเฉียบที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเน้นไปที่ความสะดวกในการพกพาและการใช้งานที่ดีขึ้น ดีไซน์และขนาดตัวเครื่อง Galaxy Z Fold 7 มีขนาดเมื่อกางออกอยู่ที่ 158.4 x 143.1 x 4.5 มม. ซึ่งบางกว่าและกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน เมื่อพับแล้ว ความหนาของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 9.5 มม. (รวมส่วนของกล้อง) ความบางนี้ทำให้ Galaxy Z Fold 7 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนจอพับที่บางที่สุดในตลาดปัจจุบัน หน้าจอและการแสดงผล หน้าจอด้านในมีขนาด 8.2 นิ้ว หน้าจอด้านนอกมีขนาด 6.5 นิ้ว เทคโนโลยีจอพับแบบใหม่ช่วยให้รอยพับน้อยลงและแข็งแรงขึ้น รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ทั้งสองจอ สเปกและประสิทธิภาพ ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Elite แบตเตอรี่: ความจุ 4,400 mAh เท่าเดิม แม้ว่าจะมีความบางลง แต่ยังคงรักษาความจุแบตเตอรี่ไว้ได้ดี กล้อง: กล้องหลัก 200MP พร้อมกล้อง Ultrawide 12MP และ Telephoto 10MP รองรับการซูมแบบ Optical Zoom สูงสุด 5 เท่า RAM และ Storage: ตัวเลือก 12GB/16GB RAM และ 256GB/512GB/1TB Storage ระบบปฏิบัติการ: One UI เวอร์ชันล่าสุด บนพื้นฐาน Android 15 การเปิดตัวและความคาดหวัง คาดว่า Samsung จะเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2025 พร้อมกับ Galaxy Z Flip 7 โดยจะมีการอัปเกรดด้านดีไซน์และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น แหล่งที่มา: DailyGizmo The Verge Droidsans Sanook **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
android 16
0

Android 16 เตรียมเปิดตัวไตรมาสที่ 2 ปี 2025 เร็วกว่ากำหนด พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ

Image source: Android Developers Google ประกาศเปิดตัว Android 16 ไตรมาสที่ 2 ปี 2025 เร็วกว่ากำหนด พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ Google ประกาศเปิดตัว Android 16 อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนดการปกติที่มักจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยการเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสามารถนำระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่มาใช้ได้เร็วขึ้น และรองรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ได้ทันที กำหนดการเปิดตัว Android 16 Google ได้เผยกำหนดการสำหรับเวอร์ชันต่างๆ ของ Android 16 ดังนี้: Developer Preview: ปล่อยให้ทดสอบในช่วง พฤศจิกายน-ธันวาคม 2024 Beta Version: เปิดตัว 4 รุ่น ในแต่ละเดือน ตั้งแต่ มกราคม 2025 Stable Version: คาดว่าจะปล่อยเวอร์ชันสมบูรณ์ในช่วง ปลายไตรมาสที่ 2 ปี 2025 Image source: Android Developers ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของ Android 16 แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับ Android 16 แต่มีข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ที่อาจเป็นไฮไลต์สำคัญ ได้แก่: Live Updates บนหน้าจอล็อก - ระบบแจ้งเตือนแบบไดนามิกสำหรับแอปพลิเคชันที่มีการติดตามสถานะ เช่น การเดินทาง หรือการสั่งอาหาร ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามข้อมูลได้โดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย - Google คาดว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลและการป้องกันมัลแวร์ ประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น - มีการพัฒนาให้ Android 16 ใช้งานทรัพยากรของอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ และทำให้การทำงานของแอปพลิเคชันลื่นไหลขึ้น Developer Preview พร้อมให้ทดสอบแล้ว สำหรับนักพัฒนา Google ได้เปิดให้ทดสอบ Android 16 Developer Preview 1 แล้ว โดยรองรับอุปกรณ์ตระกูล Pixel และ Android Emulator สำหรับการทดสอบแอปพลิเคชันก่อนที่เวอร์ชันจริงจะเปิดตัว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการเปิดตัวเร็วขึ้น การปรับเปลี่ยนกำหนดการเปิดตัวของ Android 16 ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสามารถนำระบบปฏิบัติการใหม่มาใช้กับอุปกรณ์ใหม่ได้เร็วขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2025 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ และอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการเร็วขึ้นกว่าเดิม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Android 16 และการอัปเดตอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ของเรา! **สำหรับท่านที่สนใจ เช่า/ซื้อ อุปกรณ์ IT ต่างๆ ติดต่อได้ที่** Line ID : @totalitsolution หรือ โทร : 092-269-8800 สายด่วน : 092-269-7700 คลิกตรงนี้เพื่อติดต่อฝ่ายอื่นๆ
Continue reading
OpenAI
0

มิรา มูราติ ดึงตัว จอห์น ชูลแมน สู่สตาร์ทอัพ AI ใหม่ พลิกโฉมวงการปัญญาประดิษฐ์

CR : OpenAI OpenAI มิรา มูราติ ดึงตัว จอห์น ชูลแมน สู่สตาร์ทอัพ AI ใหม่ พลิกโฉมวงการปัญญาประดิษฐ์ในวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ข่าวการเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงมักเป็นที่สนใจของสาธารณชน ล่าสุด มีรายงานว่า มิรา มูราติ (Mira Murati) อดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ ai ได้ดึงตัว จอห์น ชูลแมน (John Schulman) ผู้ร่วมก่อตั้ง ai มาร่วมงานในสตาร์ทอัพใหม่ของเธอ การเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม AI จอห์น ชูลแมน เพิ่งลาออกจากบริษัท Anthropic ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่เขาร่วมงานเพียงห้าเดือนเท่านั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วมกับสตาร์ทอัพของมูราติ ความสำคัญของการร่วมงานครั้งนี้ การที่มูราติสามารถดึงตัวชูลแมนมาร่วมงานได้ ถือเป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งอาจส่งผลให้สตาร์ทอัพของเธอมีความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความลับของสตาร์ทอัพใหม่ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับสตาร์ทอัพของมูราติ ทั้งในด้านชื่อบริษัท วิสัยทัศน์ หรือผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม การที่เธอสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอย่างชูลแมนมาร่วมงาน แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจและศักยภาพของโครงการนี้ ประวัติของมิรา มูราติ มิรา มูราติ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ เอไอ โดยเฉพาะในโครงการ GPT-3 และ DALL-E ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่และโมเดลการสร้างภาพตามคำบรรยายตามลำดับ ความเชี่ยวชาญของเธอในด้านการวิจัยและพัฒนา AI ทำให้เธอเป็นที่ยอมรับในวงการ ประวัติของจอห์น ชูลแมน จอห์น ชูลแมน เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง เอไอ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) โดยเฉพาะในด้านการเรียนรู้เสริมแรง (Reinforcement Learning) ผลงานของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนา AI ในปัจจุบัน ความคาดหวังในอนาคต การรวมตัวของมูราติและชูลแมนในสตาร์ทอัพใหม่นี้ ทำให้หลายคนคาดหวังว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยี AI ที่น่าทึ่งในอนาคต แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับโครงการนี้ แต่ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทั้งสอง การร่วมงานครั้งนี้น่าจะเป็นที่จับตามองของวงการ AI สรุป การที่มิรา มูราติ อดีต CTO ของ เอไอ ได้ดึงตัวจอห์น ชูลแมน ผู้ร่วมก่อตั้ง เอไอ มาร่วมงานในสตาร์ทอัพใหม่ของเธอ เป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการ AI ในอนาคต เครดิต TECHCRUNCH.COM – รายงานเกี่ยวกับการที่ มิรา มูราติ อดีต CTO ของ ai ดึงตัว จอห์น ชูลแมน ผู้ร่วมก่อตั้ง เอไอ มาร่วมงานในสตาร์ทอัพใหม่ของเธอ FORTUNE.COM – รายงานเกี่ยวกับการลาออกของ จอห์น ชูลแมน จากบริษัท...
Continue reading